เมนู

รูปชื่อว่า สาสวะ เพราะเป็นไปกับด้วยอาสวะทั้งหลายที่ทำอารมณ์
เป็นไป ชื่อว่า อุปาทานียะ เพราะพึงยึดมั่น. ในที่นี้ รูปขันธ์ท่านกล่าวว่า
เป็นกามาพจร ธรรมที่เป็นไปในภูมิ 3 ที่เหลือ ท่านกล่าวด้วยอำนาจ
การประพฤติวิปัสสนา. ในที่นี้พึงทราบวินิจฉัยอย่างนี้ รูปจัดเข้าในขันธ์
ด้วยอรรถว่าเป็นกอง เวทนาเป็นต้นทั้งที่มีอาสวะทั้งที่ไม่มีอาสวะ จัดเข้า
ในอุปาทานขันธ์ ด้วยอรรถว่าเป็นกองธรรมที่มีอาสวะ ทั้งหมดจัดเข้าใน
ขันธ์ด้วยอรรถว่าเป็นกอง. แต่ในที่นี้ธรรมที่เป็นไปในภูมิ 3 จัดเข้าใน
อุปาทานขันธ์ ด้วยอรรถว่าเป็นกองธรรมมีอาสวะ.
จบ อรรถกถาปัญจขันธสูตรที่ 6

7. โสณสูตรที่ 1



ว่าด้วยขันธ์ 5 มิใช่ของเรา



[97] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้ :-
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระวิหารเวฬุวัน
กลันทกนิวาปสถาน กรุงราชคฤห์
ครั้งนั้นแล คฤหบดีบุตรชื่อโสณะ
เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคเจ้า
นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้ว พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสกะ
คฤหบดีบุตรชื่อโสณะว่า ดูก่อนโสณะ ก็สมณะหรือพราหมณ์เหล่าใด
เหล่าหนึ่ง ย่อมพิจารณาเห็นว่า เราเป็นผู้ประเสริฐกว่าเขา พิจารณา
เห็นว่า เราเป็นผู้เสมอเขา หรือพิจารณาเห็นว่า เราเป็นผู้เลวกว่าเขา
ด้วยรูปอันไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา ที่เป็นดังนี้
มิใช่อื่นไกล นอกจากการไม่เห็นธรรมตามความเป็นจริง ย่อมพิจารณา